ทำไม
ระบบ HACCP ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัยของอาหาร การบริหารระบบ HACCP จะเกี่ยวข้องกับการควบคุมที่มีประสิทธิผลของโปรแกรมที่เกี่ยวข้องในสถานประกอบการทั้งหมด
เมื่อมีการพัฒนาและเริ่มใช้แผนงาน HACCP ธุรกิจยังคงต้องดำเนินต่อไปซึ่งแปลว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา เพื่อควบคุมอันตรายต่อความปลอดภัยของอาหาร ระบบ HACCPจึงต้องได้รับการการดูแลให้ทันสมัย โดยการปรับปรุงแก้ไขให้สะท้อนกับสิ่งที่เกิดภายในและภายนอกสถานประกอบการ ระบบ HACCP จึงต้องได้รับการอัพเดตและเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ
การทำให้ระบบ HACCP ให้มีประสิทธิผลจะขึ้นอยู่กับคำมั่นสัญญาของฝ่ายบริหารสูงสุด ระหว่างขั้นการพัฒนา HACCP ฝ่ายบริหารจะต้องแสดงให้เห็นคำมั่นสัญญาโดยการจัดให้มีทรัพยากร เวลาและเงิน หลังจากที่ได้ใช้ระบบ HACCP ฝ่ายบริหารจะต้องแสดงให้เห็นคำมั่นสัญญาผ่านการสนับสนุนผ่านกิจกรรมต่างๆ (ตัวอย่างเช่น การฝึกอบรม นโยบายและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง)
กิจกรรมการธำรงรักษาระบบ HACCP จะรวมถึง
- กิจกรรมการทวนสอบ (verification) อย่างต่อเนื่อง
- กิจกรรมการพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation)
- การตรวจติดตามปกติที่วางแผนไว้สำหรับระบบ HACCP ที่ทำโดยบุคลากรที่ได้รับการฝึกอบรมภายในบริษัท
- การติดตามผลและการทำปฏิบัติการแก้ไขต่าง ๆ จากการตรวจติดตามก่อนหน้านี้ให้เสร็จสมบูรณ์
- การอัพเดตระบบ HACCP เพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ สำหรับสถานประกอบการ สินค้า หรือการดำเนินการผลิต
- การแก้ไขระบบ HACCP เพื่อสะท้อนกับข้อมูลใหม่ทางวิทยาศาสตร์ และ/หรืออันตรายใหม่ ๆ
- เก็บหลักฐานประวัติการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งหมดภายในระบบ HACCP
- ปรับระบบ HACCP เพื่อสะท้อนต่อการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆ และ
- การฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บุคลากรทุกคนที่เกี่ยวข้องจะมีทักษะและความรู้เชิงปฏิบัติการที่จำเป็น
ความหมายระหว่าง Validation vs Verification
ความหมายของ “การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation)” และ “กิจกรรมการทวนสอบ (verification)” ’มักจะเกิดความสับสนและใช้อย่างไม่ถูกต้อง
- กิจกรรมการทวนสอบ (verification) เป็นการประยุกต์ใช้ วิธีการ การทดสอบ กระบวนการทำงานและการประเมินต่าง ๆ เพื่อตัดสินความสอดคล้อง (CONFORMITY) กับแผนงาน HACCP กิจกรรมการทวนสอบ (verification) เป็นการทำเพิ่มเติมจากกิจกรรมตรวจเฝ้าระวัง (monitor) ตัวอย่างเช่น ผู้ประสานงาน HACCP จะตรวจสอบบันทึกต่าง ๆ ของซูเปอร์ไวเซอร์สายการผลิตเพื่อทำให้มั่นใจว่าได้ตามอุณหภูมิในการปรุงที่ถูกต้อง)
- กิจกรรมการพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) เป็นการยืนยันด้วยหลักฐาน(EVIDENCE)ว่าแผน HACCP ที่จัดทำนั้นใช้ได้จริง เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า องค์ประกอบต่างๆ ของแผนงาน HACCP ที่ออกแบบมานั้นจะส่งผลให้อาหารที่ผลิตปลอดภ้ยตามเจตนาได้จริง ไม่อิงนิยาย (หลักฐานจาก การทดสอบ การทดลอง อ้างอิงวิชาการ หรือการวิเคราะห์ทางสถิติ สำหรับการทดลอง เช่น การทวนสอบเชิงสถิติเกี่ยวกับเครื่องทำพาสเจอร์ไรส์สำหรับนมสามารถทำได้กี่คร้งโดยไม่ต้องทำความสะอาดแบบ CIP)
สรุปเพื่อความเข้าใจได้ง่าย
- Verification เกี่ยวกับ กิจกรรมเพื่อยืนยันว่าท่านได้ทำในสิ่งที่กำหนดไว้หรือไม่ (ได้ใช้)
- Validation เกี่ยวกับ กิจกรรมเพื่อยืนยันว่า ถ้าทำตามที่กำหนดจะทำให้ได้ผลตามที่ต้องการหรือไม่ (ใช้ได้)
การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation)
สถานประกอบการมีหน้าที่รับผิดชอบในการ validate กิจกรรมต่างๆ การ validate จะช่วยยืนยันว่าสถานประกอบสามารถควบคุมอันตรายที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารได้
สิ่งที่ต้องพิสูจน์ทราบในการพัฒนาแผนงาน HACCP
- อันตรายที่มีนัยยะ
- จุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (Critical Control Point; CCP)
- ค่าวิกฤต (critical limit)
- ตรวจเฝ้าระวัง (monitor) และ
- การปฏิบัติการแก้ไข (corrective action)
การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation)อาจต้องใช้การจ้างบุคคลภายนอกที่มีทักษะอาชีพหรือมีคุณวุฒิพิเศษ (ตัวอย่างเช่น ที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยของอาหาร) ทำงานร่วมกับทีมความปลอดภัยในอาหาร ท่านต้องไม่ลืมว่ากิจกรรมนี้อาจใช้เวลาและเงิน
เพื่อทำการวิเคราะห์อันตรายใหม่ในแต่ละครั้ง เมื่อระบบมีการเปลี่ยนแปลงหรือเมื่อมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ สถานประกอบการมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบทุกการวิเคราะห์อันตรายใหม่ และทุกมาตรการควบคุมต่างๆ (ทั้งใหม่หรือเก่า)ว่ายังใช้งานได้ผลดีหรือไม่ ด้วยเหตุผลนี้ การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) จึงเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำและธำรงรักษาระบบ HACCP
การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) อาจเกี่ยวข้องกับการทบทวนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ผลการวิแคราะห์วิจัยและทางเทคนิคของทุกส่วนของแผนงาน HACCP ตั้งแต่การวิเคราะห์อันตรายจนถึงกิจกรรมการทวนสอบ (verification)
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการจัดทำโปรแกรม HACCP คือการพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าได้มมีการอ้างอิงตามวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ถูกต้อง
แนวทางในการพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) อาจรวมถึงการใช้:
- ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์
- การประเมินทางสถิติของพารามิเตอร์จากขั้นตอนการผลิต
- การวิเคราะห์ทางสถิติสำหรับขั้นการปรุงสุก และ
- การวิเคราะห์ผลของห้องปฏิบัติการทดลอง (มักจะใช้สถิติ) เพื่อตรวจสอบว่ามีการควบคุมขั้นตอนหรือไม่
ประเภทของการ Validation
1st Time |
Re Assessment / Change |
|
Purpose |
|
|
Freq |
|
|
Process |
|
|
1st Time
หนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของการพัฒนาโปรแกรม HACCP คือการ validateแผนงาน HACCP การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) เป็นการหาหลักฐาน(ต้องมีหลักฐาน) เพื่อตอบคำถามต่างๆต่อไปนี้
- อันตรายที่มีนัยยะ ได้ระบุครบถ้วนทั้งหมดหรือไม่
- ค่าวิกฤต (critical limit) ที่ใช้มีที่มาที่ไปที่น่าเชื่อถือทั้งหมดหรือไม่
- มาตรการควบคุม สามารถป้องกัน ได้ขจัด ได้ลด อันตรายที่มีนัยสำคัญให้ลดลงถึงระดับที่ยอมรับได้หรือไม่
- ความถี่ วิธีการตรวจเฝ้าระวัง (monitor) ใช้เทคนิคที่ดี ทันท่วงที เหมาะสม หรือไม่
- การปฏิบัติการแก้ไขที่ระบุ มีความเหมาะสมในการทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าจะสามารถแก้ไขให้CCP กลับสู่ภายใต้การควบคุม รวมถึงการกำหนดวิธีการจัดการกับสินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอย่างถูกต้องไว้ด้วย หรือไม่
- กระบวนการทำงานต่าง ทำให้มั่นใจว่าสินค้าต่าง ๆ ที่ไม่ปลอดภัยจะไม่ถึงผู้บริโภคหรือไม่
ดูตัวอย่างแบบฟอร์มการทำ 1st Validation ที่นี่
Re Assessment / Change
เมื่อเวลาผ่านไปย่อมมีสิ่งเปลี่ยนแปลง สถานประกอบการอาจต้องทำการพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation)ซ้ำ ซึ่งบ่อยครั้งมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับ
- การเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบต่าง ภาชนะบรรจุ และ ผู้ส่งมอบ
- การเปลี่ยนแปลงในสินค้าหรือขั้นตอน
- การเปลี่ยนแปลงสิ่งอำนวยความสะดวกในการผลิตหรืออุปกรณ์
- ผลตรวจสอบย้อนกลับ หรือ การเกิดซ้ำของสิ่งผิดปกติหรือการสูญเสียการควบคุมที่จุดวิกฤตที่ต้องควบคุม
- PRP
- ข้อมูลใหม่ทางวิทยาศาสตร์ด้านอันตรายหรือมาตรการควบคุมต่างๆ
- การสังเกตการณ์ในสถานประกอบการ
- แนวทางปฏิบัติใหม่สำหรับการกระจายสินค้าหรือผู้บริโภค และ
- ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า
ไม่ว่าอย่างไร การพิสูจน์ยืนยันความใช้ได้ (validation) ควรทวนสอบแต่ละระบบ HACCP อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ดูตัวอย่างแบบฟอร์มการทำ Re Assessment / Change Validate ได้ที่นี่
เพิ่มเติม
ตามข้อกำหนด GMP/GHPs/HACCP แต่ละค่า CL ที่ใช้ในแต่ละ CCP ค่าวิกฤติที่ใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินต้องเป็นค่าที่validated (ตามหลักวิทยาศาตร์หรือการทดลอง) มาแล้ว ตามที่กำหนดใน step 8 / Principle 3
ท่านสามารถใช้ตัวอย่างนี้ในการสรุป validate แต่ละค่าวิกฤติ(CL)ได้
END