พิมพ์
หมวด: บทความอาหารปลอดภัย

Food Safety Audit Guide Series66

อุปกรณ์และของใช้

การตรวจอุปกรณ์ของใช้ ผู้ตรวจประเมินควรกำหนดเวลาเพื่อทำการตรวจสิ่งนี้ ก่อนเริ่มการแปรรูป เพื่อให้คุณสามารถประเมินเงื่อนไขและแนวทางปฏิบัติที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ ก่อนที่โรงงานเริ่มเดินเครื่อง  ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบการทำความสะอาดว่าได้ทำอย่างเพียงพอหรือไม่ สถานที่ และวิธีการจัดเก็บอุปกรณ์เมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นอย่างไรเหมาะสมหรือไม่  การเตรียมสารละลายฆ่าเชื้อ และการเตรียมการผลิตแต่ละล๊อต และบุคลากรได้มีการฆ่าเชื้อที่มือและอุปกรณ์ก่อนเริ่มงานหรือไม่ 
 

แนวทางตรวจประเมิน 

1. อุปกรณ์และเครื่องใช้ที่สกปรกหรือทำความสะอาดอย่างไม่เหมาะสม อาจเป็นจุดก่อเกิดความสกปรกหรือการปนเปื้อนของแบคทีเรียในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ให้ทำการตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งหมดในด้านความเหมาะสมและความสะดวกในการทำความสะอาด พิจารณาว่าได้มีการออกแบบหรือสร้างอุปกรณ์ให้ปิดคลุมป้องกันผลิตภัณฑ์ไม่ให้โดนฝุ่นละอองและการปนเปื้อนของสภาพแวดล้อมโดยไม่จำเป็นหรือไม่ ช่องเปิดเพื่อตรวจสอบภายในสามารถทำได้อย่างปลอดภัย ให้สังเกตว่ามีการทาสีทับ หรือปิดผนึกช่องตรวจสอบ ปิดตายอย่างถาวรหรือไม่
2. สังเกตระบบการกรองและประเมินวิธีการทำความสะอาด (หรือช่วงเวลาเปลี่ยนหรือล้างตัวกรอง) และกำหนดความถี่  ตรวจสอบประเภทของตัวกรองที่ใช้ 
3. ตรวจสอบสภาวะที่ถูกสุขลักษณะของเครื่องจักรทั้งหมด พิจารณาว่ามีการทำความสะอาดอุปกรณ์ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งหรือไม่ และวิธีการทำความสะอาด หากบริษัทเช่าอุปกรณ์มาใช้ในระยะสั้น ให้ศึกษารายงานการทำความสะอาดก่อนหน้านำมาใช้งานในโรงงาน เพราะอาจมีการใช้อุปกรณ์ที่สัมผัสกับยาฆ่าแมลง สารเคมี ยาและวัตุอันตรายอื่น ๆ ก่อนที่จะนำมาติดตั้ง และอาจเป็นแหล่งที่มาของการปนเปื้อนข้ามได้
4. ตรวจสอบสายพานว่ามีการสะสมวัสดุตกค้างสะสมและสิ่งตกค้างในซอกมุมต่างๆ โดยเฉพาะในส่วนใต้สายพาน ตรวจสอบช่องตรวจสอบและจุดที่เข้าถึงได้ยากทั้งภายใน รอบๆ ด้านล่าง และด้านหลังอุปกรณ์และเครื่องจักร เพื่อหาหลักฐานการปนเปื้อนของสิ่งสกปรก แมลง และ/หรือสัตว์ฟันแทะ 
รางเทและท่อลำเลียงอาจดูดี แต่ให้เคาะหรือลูบด้วยส้นมือหรือด้วยค้อนยาง เพราะอาจทำให้วัสดุที่อยู่นิ่งหลุดออกมาให้เห็นได้ ทบทวนขั้นตอนในการสุ่มตรวจสอบระหว่างการผลิตว่าได้มีการกำหนดอย่างเหมาะสมหรือไม่
5. พิจารณาการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อและจัดเก็บ สำหรับ แปรง เครื่องกวาด ไม้กวาดและสิ่งของอื่น ๆ ที่ใช้ในระหว่างการแปรรูป หรือบนพื้นผิวสัมผัสของผลิตภัณฑ์ ให้ประเมินประสิทธิผลของการปฏิบัติโดยทำการสังเกต
6. ระวังการวางตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมหรือการป้องกันไม่เพียงพอ สำหรับกลุ่มเทอร์มอมิเตอร์ปรอทหรือหลอดไฟฟ้า การแตกของสิ่งเหล่านี้ทำให้อนุภาคของปรอทและแก้วกระจายลงบนวัสดุหรือในเครื่องจักรแปรรูป โดยไม่คาดคิดได้
7. หาก บริษัทใช้หลอดรังสี UV ในการควบคุมแบคทีเรีย ให้ตรวจสอบว่ามีและใช้วิธีการหรือเครื่องวัดใด ๆ ในการตรวจสอบความเข้มของการปล่อยรังสี UV หรือไม่  หากมีตรวจสอบวิธีการ ขั้นตอน ประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ และกำหนดเวลาในการเปลี่ยนหลอด UV ที่ความเข้มแสงไม่ได้ตามมาตรฐาน
8. ในโรงงานที่ใช้สารละลายคลอรีนผ่านทางท่อทาง  ให้ตรวจสอบประเภทของท่อที่ใช้ สังเกตดูการสึกกร่อนภายในอันเรื่องมาจากปฏิกิริยาของสารละลายคลอรีน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการปนเปื้อนจากไฟเบอร์กลาส ท่อต่างๆที่ทำด้วยเรซินโพลีเอสเตอร์จะต้องไม่เสื่อมสภาพจากสารละลายนี้
9. ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีในการฆ่าเชื้อทั่วทั้งโรงงาน และประเมินประสิทธิผล ระดับการควบคุมดูแลที่ใช้ ความเข้มข้น เวลาและวิธีการใช้สารฆ่าเชื้อ 
พิจารณาการใช้หรือความเป็นไปได้ในการขาดแคลนน้ำยาฆ่าเชื้อทั้งสำหรับอุปกรณ์และเครื่องใช้ฆ่าเชื้อ เช่นเดียวกับการจุ่มมือ  หากใช้คลอรีนควรใช้ความเช้มข้นที่ 50-200 ppm สำหรับอุปกรณ์และเครื่องใช้ และ โดยทั่วไป 100 ppm จะเพียงพอสำหรับสารละลายแบบจุ่มมือ 
น้ำยาฆ่าเชื้อจะสูญเสียความเข้มข้นอย่างรวดเร็วเมื่อมีการเพิ่มสารอินทรีย์ ให้ตรวจสอบความเข้มข้นของสารละลายหลายๆครั้งในระหว่างที่ทำการตรวจสอบ และระบบการตรวจวัดความเข้มข้นขององค์กรที่กำหนด